Hyaluronic Acid จะช่วยกักเก็บน้ำให้แก่ชั้นใต้ผิว ช่วยทำให้ใบหน้าเต่งตึง อีกทั้งยังเป็นการเติมเส้นใยคอลลาเจนที่หายไป ให้ผิวนั้นดูอ่อนเยาว์ ริ้วรอยร่องลึกดูตื้นขึ้น ใบหน้าดูอ่อนกว่าวัย
"ทำได้ง่ายและรวดเร็ว ช่วยปรับแต่งใบหน้าโดยเห็นผลทันทีและเป็นธรรมชาติ"
ฟิลเลอร์นิยมใช้ เพื่อแก้ไขจุดบกพร่องและเติมเต็มบริเวณใบหน้า เช่น การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา ฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม เพื่อให้ใบหน้าดูอ่อนเยาว์ ริ้วรอยต่างๆตื้นขึ้น และการฉีดฟิลเลอร์เพื่อปรับแต่งส่วนต่างๆของใบหน้า ให้ดูสวยงามสมบูรณ์แบบยิ่งขึ้น เช่น ฉีดฟิลเลอร์คาง ฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก
"ปัจจุบันนี้ฟิลเลอร์ไม่ได้ทำหน้าที่เพียงแค่เติมเต็มในส่วนต่างๆ แต่ยังมีการใช้ฟิลเลอร์เพื่อปรับสภาพให้ผิวนั้นอุ้มน้ำ ผิวชุ่มชื้นมากขึ้น ใบหน้าดูฉ่ำวาวขึ้นอีกด้วย"
1. Temporary filler (แบบชั่วคราว) อยู่ได้ประมาณ 6 เดือน – 2 ปี สามารถสลายตัวได้เองตามธรรมชาติ มีความปลอดภัยสูง เป็นที่นิยมใช้กันมากในปัจจุบัน เช่น ฟิลเลอร์กลุ่ม ไฮยารูรอนิกแอซิด Hyaluronic Acid หรือ HA ที่เรารู้จักกัน
2. Semi Permanent Filler (แบบกึ่งถาวร) สามารถอยู่ได้นานประมาณ 2-5 ปี ยาวนานกว่าแบบแรก มีความปลอดภัยรองลงมาจากแบบแรก เช่น แคลเซียมฟิลเลอร์ ที่มีส่วนผสมของแคลเซียม ไฮดรอกซิลอะพาไทต์ (Hydroxyapatite)
สารเติมเต็มกลุ่มกึ่งถาวรนี้มีใช้ในต่างประเทศ แต่ยังไม่ได้รับอนุญาตให้ใช้รักษาในประเทศไทย เนื่องจากเมื่อเกิดผลข้างเคียงหลังการรักษาจะสามารถทำการแก้ไขได้ยากกว่าสารเติมเต็มในกลุ่มที่ย่อยสลายได้
3. Permanent Filler (แบบถาวร) เป็นสารเติมเต็มพวก ซิลิโคน หรือ พาราฟิน หลังฉีดไปแล้วผิวจะไม่สามารถดูดซึมฟิลเลอร์ชนิดนี้ได้ ทำให้คงค้างอยู่ในชั้นผิวของเรา โดยไม่สามารถสลายไปตามธรรมชาติ มีผลข้างเคียงในระยะยาว เช่น ฟิลเลอร์ไหล ฟิลเลอร์ย้อย ย้วยผิดรูปนั่นเอง
ไม่แนะนำให้ฉีดสารเติมเต็มชนิดนี้ เพราะหากต้องการนำออก อาจจะไม่สามารถนำออกได้หมด ซึ่งเกิดอันตรายในระยะยาวแก่ร่างกายเราได้
เนื่องจากการเข้ารับบริการการฉีดฟิลเลอร์ นั้นมีขั้นตอนการทายาชา โดยออกฤทธิ์โดยระงับการทำงานของระบบประสาท ทำให้ผิวหนังและเนื้อเยื่อบริเวณโดยรอบที่ทายาไร้ความรู้สึกชั่วคราว นำมาใช้เพื่อระงับอาการปวดตามตำแหน่งต่าง ๆ ซึ่งจะช่วยบรรเทาความเจ็บปวดระหว่างการฉีดฟิลเลอร์ รวมไปถึงตัวของฟิลเลอร์เองมีส่วนผสมของยาชา (Lidocane) อยู่ด้วย ดังนั้นระหว่างการฉีดฟิลเลอร์ สามารถมั่นใจได้ว่าแทบจะไม่รู้สึกเจ็บเลย รวมทั้งหลังฤทธิ์ยาชาหมดแล้วก็จะไม่มีความรู้สึกเจ็บเช่นกัน แต่ขึ้นอยู่กับบุคคลด้วย ในบางคนอาจจะมีความรู้สึกเจ็บ แต่จะเจ็บมากหรือน้อย
การฉีดฟิลเลอร์ เพื่อแก้ปัญหาริ้วรอยต่างๆ หรือฉีดเพื่อปรับแต่งรูปหน้านั้น สามารถเห็นถึงผลลัพธ์การเปลี่ยนแปลงได้ตั้งแต่ครั้งแรกที่ทำการรักษา แต่การใช้ฟิลเลอร์ในการรักษานั้นมีราคาค่อนข้างสูง ปริมาณที่ใช้ก็ขึ้นอยู่กับการปัยหาและสภาพผิว โดยที่คนไข้บางคนอาจจะเริ่มจากการเติมเพียง 1-2CC. ในครั้งแรก และเห็นผลลัพธ์ที่น่าพึงพอใจ
แต่ก็ยังคงมีฟิลเลอร์ปลอมออกมาหลอกลวง เนื่องจากการเติมฟิลเลอร์ในบางจุด อย่างเช่น หน้าผาก ถ้าต้องการให้เห็นผลการเปลี่ยนแปลงชัดเจนนั้น ต้องใช้ฟิลเลอร์หลายซีซี ตั้งแต่ 3-5 CC. ขึ้นไป ซึ่งหากใช้ฟิลเลอร์แท้จะมีราคาค่อนข้างสูง (อย่างต่ำๆประมาณ 1X,000 บาท/CC.) จึงมีการจัดโปรโมชั่นฟิลเลอร์โดยใช้ฟิลเลอร์ปลอม หรือฟิลเลอร์ที่ไม่ได้มาตรฐาน ซึ่งไม่สลายเมื่อเวลาผ่านไปหลายๆปีจึงทำให้ไหลย้อยได้ หรือฟิลเลอร์ปลอมบางชนิดสลายไวและเป็นผังผืดเป็นคลื่น
สำหรับใครสนใจที่จะฉีดฟิลเลอร์ แต่ยังตัดสินใจไม่ได้ว่าจะ ฉีดฟิลเลอร์ที่ไหนดีให้ดูจากความน่าเชื่อถือ และ มาตรฐานของคลินิกเป็นหลัก แพทย์ที่ทำการรักษา รวมถึงความสะอาดของสถานประกอบพยาบาลด้วย โดยสามารถดูได้จาก
1. มีรีวิวที่น่าเชื่อถือได้ จากผู้ใช้บริการจริง พิจารณาจากแหล่งที่เป็นกลางและน่าเชื่อถือ มีความเป็นปัจจุบัน และควรดูรีวิวที่เป็นคลิปวิดิโอ ก่อน-หลังทำ จะสามารถเปรียบเทียบได้อย่างชัดเจน
2. มีราคาที่เหมาะสม ไม่สูงหรือต่ำต่างไปจากคลินิกอื่นๆมาก ซึ่งอาจจะแตกต่างกันได้ในด้านความชำนาญของแพทย์ หากเป็นฟิลเลอร์ที่มีราคาถูกจนเกินไป ให้เดาได้เลยว่าน่าจะเป็นฟิลเลอร์ปลอมหรือฟิลเลอร์ที่ไม่ได้มาตรฐานนั่นเอง
3. ดูเคสรีวิวของแพทย์แต่ละคน แพทย์ต้องมีประสบการณ์และความชำนาญเฉพาะทางด้านการฉีดฟิลเลอร์ การวางตัวยาในตำแหน่งชั้นผิวแบบใดแก้ปัญหาใด เพื่อให้ผลลัพธ์ออกมาเป็นธรรมชาติ และบวมช้ำน้อยที่สุด และ ไม่เกิดปัญหาหลังการฉีดฟิลเลอร์ในแบบต่างๆ เช่น ฟิลเลอร์นูนเป็นก้อน หรือฟิลเลอร์ไหลผิดตำแหน่ง เป็นต้น
4. งานบริการของคลินิก นอกจากจะพิจารณาจากความน่าเชื่อถือของคลินิกแล้วงานบริการเป็นสิ่งสำคัญมาก ที่ BL CLINIC เราใส่ใจเรื่องงานบริการเป็นสิ่งสำคัญไม่แพ้ความพิถีพิทันในการฉีดฟิลเลอร์