Last updated: 17 มิ.ย. 2564 | 2592 จำนวนผู้เข้าชม |
การรับประทานอาหารที่เกินพอดี โดยเฉพาะอาหารที่มีแคลลอรี่สูงๆ เช่น กลุ่มแป้ง น้ำตาล ไขมัน ฯลฯ โดยไม่ได้สัดส่วนกับการเผาผลาญไขมัน เช่น จากการออกกำลังกาย โยคะ แอโรบิค ฯลฯ และเมื่อระยะเวลาผ่านไปเรื่อยๆ ไขมันส่วนเกิน ก็จะสะสมมากขึ้นเรื่อยๆ ไขมัน ก็จะอ้วนพองใหญ่และเพิ่มจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ ทำให้รูปร่างขยายออก หรือใหญ่ขึ้นเฉพาะบางส่วนได้ วงการแพทย์ด้านความงาม ก็เลยมีหน้าที่แก้ไขปัญหาดังกล่าวของคนไข้
นิยมฉีดลดไขมันที่ใดบ้าง
• ลดไขมันที่แก้มให้หน้าเรียวเล็ก
• ลดไขมันที่คาง(เหนียง)
• ลดไขมันที่ต้นแขน ต้นขา
• ลดไขมันที่พุง หน้าท้อง
• ลดไขมันที่จมูก(บาน) ทำให้เล็กลง
• ลดไขมันที่หนังตาบนหย่อนคล้อย
• ลดไขมันที่น่อง
ข้อห้ามในการทำ ฉีดสลายไขมัน
• สตรีมีครรภ์
• คนไข้โรคเบาหวานที่ต้องฉีดอินซูลินเป็นประจำ
• คนไข้ที่มีประวัติโรคระบบหลอดเลือดผิดปกติในสมอง เช่น เส้นเลือดสมองตีบ หรืออุดตัน
• คนไข้ที่มีประวัติโรคเลือดผิดปกติ โรคมะเร็ง
• คนไข้ที่มีประวัติโรคหัวใจ และทำการรักษาด้วยยาหลายขนาน
ข้อควรปฏิบัติหลังฉีดสลายไขมัน มีดังนี้
• ควรดื่มน้ำวันละอย่างน้อย 2 ลิตร เพราะไขมันเหลวที่โดนสลายด้วยการฉีดสลายไขมัน จะถูกขับออกทางปัสสาวะเป็นส่วนใหญ่ ดังนั้น การดื่มน้ำมากๆ จะช่วยขับไขมันส่วนเกินที่สลายให้ออกจากร่างกายได้มากขึ้น
• อาจจะพบอาการบวมช้ำ หรืออาการเจ็บปวดบ้างเล็กน้อย ขณะที่ทำและหลังทำ 1-3 วัน ดังนั้น ควรเลี่ยงการ การเข้าอบซาวน่า การนวด การดื่มอัลกอฮอล์ หรือการทำทรีทเม้นต์ใดๆ หลังทำประมาณ 1 อาทิตย์ เพื่อลดการฟกช้ำให้น้อยลง
• ควรออกกำลังกายเบาๆ หลังทำ เช่น การเดินเร็ว โยคะ หรือแอโรบิค อย่างน้อยวันละ 30-45 นาที อาทิตย์ละ 2-3 ครั้ง เพื่อให้กล้ามเนื้อกระชับ และรีดไขมันให้ออกจากร่างกายได้เร็วขึ้น ลดการสะสมของไขมันใหม่
• เปลี่ยนพฤติกรรมการรับประทานอาหารเพื่อควบคุมน้ำหนัก และไขมันส่วนเกิน มิให้กลับมาสะสมได้อีก เพราะการสลายไขมันด้วยการการฉีดสลายไขมัน จะไร้ประโยชน์ ถ้าไม่ปรับพฤติกรรมนิสัยการรับประทานอาหาร และมีวินัยในการควบคุมน้ำหนัก ให้มากขึ้น
23 ม.ค. 2562